วันที่ 24 เม.ย. 66 นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยกรณีพรรคการเมืองมีนโยบายหาเสียงเน้นประชานิยมกระตุ้นใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น มองว่าความจำเป็นของประเทศไทย ที่ต้องเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบัน ไม่ได้มากขนาดนั้น ตอนนี้เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่โหมดกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ควรเป็นโหมดปรับนโยบายเข้าสู่สภาวะปกติ และความสำคัญคือควรมองเรื่องเสถียรภาพมากกว่าเรื่องการกระตุ้น แตกต่างจากช่วงโควิด ไทยจำเป็นต้องจัดเต็มทั้งการคลังการเงิน มีความจำเป็นต้องดูแลเต็มที่ แต่ภาพในตอนนี้ แตกต่างกันมาก ควรเข้าไปสู่ภาวะปกติ ด้านการเงินทำค่อยเป็นค่อยไป ส่วนการคลังเป็นโหมดที่ทยอยลดการขาดดุลการคลัง
สำหรับเสถียรภาพที่ต้องติดตามมี 4 ด้าน ทั้งเสถียรภาพด้านราคาคือเงินเฟ้อ เสถียรภาพด้านต่างประเทศ เสถียรภาพด้านการคลังที่ต้องดูภาระหนี้ต่อจีดีพี ภาระหนี้ต่องบประมาณซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8.75% ความจริงไม่ควรเกิน 8.5% แต่ถ้าเกิน 10% จะเกิดความเสี่ยง ทำให้บริษัทจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง ลดอันดับของไทยได้ และสุดท้ายเรื่องเสถียรภาพสถาบันการเงิน ซึ่งต้องไม่ไปเอื้อให้เกิดมอรัลฮัดซาร์ด หรือให้เกิดแรงจูงใจให้คนมีวินัยการเงินผิดๆคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด
นอกจากนี้ เศรษฐกิจต้องขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน การทำนโยบายต้องดูระยะยาวมากว่าระยะสั้น ถ้าย้อนในอดีต สารพัดยุคสารพัดสมัย ที่กระตุ้นใช้เงิน ท้ายที่สุดได้ผลเพียงชั่วคราว และมีผลข้างเคียงด้วย เช่น หนี้ที่เกิดขึ้นตามมา ทำให้นโยบายต้องมองให้ครบ เทียบเคียงผลระยะยาว ดูค่าเสียโอกาส งบประมาณ ทรัพยากรจำกัดเหมาะสมหรือเปล่าคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น
“การออกนโยบายเชิงประชานิยม ที่ไทยน่าจะเห็นพูดมานาน แต่ไม่ควรมากเกินไป การช่วยเหลือที่ผ่านมา เป็นแบบจุดๆ ไม่ได้บูรณาการ ควรดูแลคนครบช่วงทั้งชีวิต ในระดับที่เหมาะสมตั้งแต่เด็กยันแก่ เช่น การศึกษาต่างประเทศ นโยบายช่วยช่วงวัยเด็ก โครงการต่างๆ ได้ประโยชน์เยอะ และควรใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจงบประมาณควรลงไปจุดไหนอย่างไร ถ้าใช้งบประมาณยั่งยืน จะเสริมการเติบโตระยะยาว สวัสดิการสังคมต่างๆ ในระบบก็น่าจะดีกว่า และควรเฉพาะกลุ่ม ไม่ควรทอดแห ลดค่านู้นนี่ เป็นอะไรที่ไม่เฉพาะเจาะจง ทุกคนได้ประโยชน์ เงินงบไปให้คนรวย แต่ถ้าเอาเงินไปใส่คนที่ขาดจริง จะได้ประโยชน์มากว่าเยอะ เช่น บัตรสวัสดิการฯ หรือบัตรคนจน ไปให้รายได้น้อย เงินลงไปคนจน มากกว่าทำเหวี่ยงแห ทอดแห”.